เมื่อนึกหรือพูดถึงความเป็น CBD (Central Business District) หรือความเป็นพื้นที่ศูนย์กลางทางธุรกิจและเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานครนั้นทุกคนต้องนึกถึงสีลม สาทร และพื้นที่ข้างเคียง ซึ่งเป็นแหล่งศูนย์รวมของออฟฟิศ ร้านค้า กิจกรรมทางสังคมและอาคารชุดพักอาศัย เป็นทำเลสุด Prime ของกรุงเทพฯ ที่หลายคนต้องการครอบครองและด้วยการขยายของเมือง แหล่งงาน สาธารณูปโภคและระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญ ทำให้เกิดพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ที่ปัจจุบันเลือกได้ว่าเป็นพื้นที่ New CBD ไปเรียบร้อยแล้ว
บริเวณแยกพระรามที่ 9 ไปถึงรัชดาภิเษก ปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ New CBD ไปเรียบร้อยแล้ว มีอาคารออฟฟิศกว่า 8-9 แสนตารางเมตร เกิดขึ้นบริเวณแยกพระราม 9 และทางทิศเหนือไปยังถนนรัชดาภิเษก มีทั้งตึกออฟฟิศ เช่น ตึก G-Tower, อาคาร Unilever House, อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ พระราม 9, ตึกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นต้น ส่วนพื้นที่ช้อปปิ้งก็มีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พลาซา แกรนด์ พระราม 9, ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์, เอสพลานาดรัชาดา, เดอะสตรีทรัชดา เป็นต้น ทั้งพื้นที่นี้ยังมีสวนเพื่อพักผ่อนหย่อนใจอย่าง สวนเบญจกิติ ด้วยพื้นที่กว่า 130 ไร่ ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก ข้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ อีกด้วย
บริเวณ New CBD พระราม 9 นี้ ยังมีโอกาสขยายตัวออกไปทางทิศตะวันออกตามเส้นทางถนนพระราม 9 ถึงแยกรามคำแหงได้ เมื่อพิจารณาจากการลงทุน 2 โครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ ได้แก่ ไซมิส พระราม 9 และเมเจอร์ ทาวเวอร์ พระราม 9-รามคำแหง รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้มที่อยู่ในระหว่างก่อสร้าง ก็จะช่วยบูมพื้นที่โซนรามคำแหงนี้ได้อีกในอนาคต
ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยหรือออฟฟิศใหม่ ทางโครงการ 201 AVENUE จึงขอบอกข้อดีเชิง Location ของโครงการที่ตั้งบริเวณ New CBD โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1.คุ้มค่าในการลงทุน –เนื่องจากพื้นที่ของโครงการเดิมก็เจริญระดับนึงอยู่แล้ว ทั้งยังมีศักยภาพในการขยายตัวอีกมากจากโครงการรถไฟฟ้าและโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้งอาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัย คุ้มค่าต่อการลงทุน ณ ปัจจุบันก่อนราคาปรับขึ้นในอนาคต
2.ความ “ใหม่” ที่ไม่มีใครเลียนแบบได้ –ความใหม่ของย่านธุรกิจและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาเสร็จแล้วหรืออยู่ในช่วงพัฒนาโครงการกำลังจะเป็น Landmark แห่งใหม่ของประเทศไทย โดยเฉพาะโครงการ The Super Tower ที่นับว่าเป็นโครงการที่ใช้สุดยอดแห่งเทคโนโลยีในการก่อสร้างทั้งในแง่วิศวกรรมและสถาปัตยกรรม กลายเป็นอาคารที่สูงที่สุดของประเทศไทย คือมีความสูง 2 เท่าของตึกมหานครหรือ 615 เมตร ประมาณ 215 ชั้น (ปัจจุบัน CPN ซื้อไปแล้ว) และโครงการอื่นๆ เช่น ตึก G Tower, อาคาร Unilever House, อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยใหม่, อาคาร Singha Complex ทำให้พื้นที่นี้มีความล้ำสมัยและทันสมัย
3.โครงสร้างพื้นฐานและขนส่งมวลชน –ทำเลของโครงการ 201 AVENUE อยู่ในซอยประดิษฐ์มนูญธรรม 1 เข้าจากหน้าปากซอยประมาณ 130 เมตร เป็นทำเลที่เข้าจากถนนใหญ่ได้หลายเส้นทาง ทั้งทางถนนประดิษฐ์มนูญธรรมและถนนประชาอุทิศ ใกล้ทางด่วนและไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าที่มีเส้นทางตามถนนสำคัญรอบๆโครงการ ใกล้ที่สุดก็คือ สถานีประชาอุทิศ (สายสีเทา) สถานีประดิษฐ์มนูญธรรม (สายสีส้ม) และสถานีลาดพร้าว 71 (สายสีเหลือง) ซึ่งต้องรอเปิดให้บริการในอนาคต หรือสถานีรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการในปัจจุบันจะมีสถานีศูนย์วัฒนธรรม (สายสีน้ำเงิน) และสถานีรามคำแหง (Airport Rail Link) อีกทั้งทำเลของโครงการ 201 AVENUE ยังอยู่ใกล้กับทางด่วนฉลองรัชฝั่งไปสุขุมวิทและฝั่งรามอินทรา เพียงแค่ 5 นาที
อีกหนึ่งอย่างที่สำคัญที่ทำให้ทำเลนี้เป็นที่สนใจ คือการนำสายไฟลงดินเพื่อทัศนียภาพที่สวยงามขึ้นของกรุงเทพมหานครเพราะเป็นการลดมลพิษทางสายตา อีกทั้งยังเพิ่มความเป็นระเบียบเรียบร้อยเทียบเท่าเมืองใหญ่อื่นๆ ในประเทศที่ไม่มีสายไฟบนดิน รวมถึงสามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้ด้วยการปลูกต้นไม้ริมถนน เพื่อให้ความร่มรื่นและอากาศบริสุทธิ์แก่ผู้สัญจรไปมา เป็นการปรับรูปโฉมใหม่ของกรุงเทพมหานครให้มีความทันสมัย เป็นเมืองสีเขียวที่สำคัญ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งโครงการ 201 AVENUE ก็ดำเนินการนำสายไฟลงดินเช่นกัน เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ที่ทันสมัย ทำให้โครงการมีทัศนียภาพที่สวยงามและเพื่อสร้างทัศนียภาพในการทำงานและการอยู่อาศัยอีกด้วย
4.บริบทของพื้นที่เดิมที่ดีอยู่แล้ว –เดิมเป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวไทย ชาวจีนและฝรั่ง ปะปนฐานะกันตั้งแต่ระดับแรงงานไปจนถึงฐานะดี สภาพแวดล้อมของโครงการส่วนใหญ่อยู่ในโซนที่มีความอุดสมบูรณ์สูง ถือว่าเป็นศูนย์รวมความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว เพราะมีทั้งแหล่งงาน สถานศึกษาและศูนย์การค้าทั้งประเภท Department Store, Hyper Market, Super Market เช่น Golden Place, Central Plaza Rama 9, Esplanade Ratchada, The Street Ratchada ใกล้โรงเรียนนานาชาติและโรงเรียนชั้นนำหลายแห่ง เช่น Regent’s International School, Singapore International School of Bangkok, KIS International School Bangkok ใกล้โรงพยาบาลกรุงเทพ มีสวนเพื่อพักผ่อนหย่อนใจอย่างสวนเบญจกิติ นอกจากนี้ยังมีสำนักงานขนาดใหญ่สำคัญๆอย่าง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, G Tower, CP Tower 2, RS Tower และ CW Tower รวมถึงยังเป็นย่าน Creative & Production เดิมอีกด้วย เนื่องจากมีความเจริญเดิมอยู่แล้ว ทำให้มีสิ่งต่างๆ เดิมรอรองรับต่างจาก CBD เดิมที่ราคาที่ดินสูง จนไม่มีพื้นที่เหล่านี้อยู่ซึ่งเป็นเสน่ห์ของพื้นที่ย่านอโศก รัชดา พระราม 9 ที่ไม่มีใครเหมือน
แถมท้ายอีกนิด แล้วทำไมคนถึงชอบ/หรืออยากอยู่ CBD หรือแม้แต่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์หรือผู้ประกอบการหลายรายอยากเข้ามาตั้งห้างร้านใน CBD ก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าพื้นที่ CBD เป็นพื้นที่ในเมืองหลวงที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภค ครบครัน จะเดินทางไปไหนมาไหนก็สะดวก มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ตอบสนองการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งห้างร้าน ศูนย์การค้า แหล่งงาน รวมถึงโรงเรียนชั้นนำโรงเรียนอินเตอร์และมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทั้งคนทำงาน ครอบครัว ในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะทุกคนก็ต้องทำงาน ส่งลูกเรียนหนังสือ ทานอาหารและทำกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ
ด้านการลงทุนพื้นที่ CBD นี้เป็นที่ดึงดูดนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียม เนื่องจากมีความต้องการเช่าพักอาศัยสูงอย่างต่อเนื่องทั้งกับคนต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย ทั้งคนฝั่งตะวันตก (ฝรั่ง) คนเอเชีย คนญี่ปุ่น คนจีนและผู้บริหาร ที่เข้ามาทำงานในเมือง แต่พื้นที่มีจำกัดทำให้ได้ประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ทั้งจากค่าเช่าและส่วนต่างราคา (Capital Gain) สูงขึ้นต่อเนื่อง จึงถือว่าเป็นขุมทรัพย์การลงทุน/ขุมทรัพย์ที่อยู่อาศัยที่เป็นฝันของใครหลาย ๆ คน